วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กิจกรรมทดสอบกลางภาคเรียน

บทความเรื่อง ความเป็นครูของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของดร.สุเมธ ตันติเวชกุล วารสารทักษิณ

1.ข้อสรุปที่ได้จากบทความ
การสอนเพื่อที่จะให้ผู้อื่นรู้และเข้าใจนั้นควรสอนด้วยการลงมือทำ ทำให้เขาดูและให้เขาลงมือปฏิบัติจริงจึงจะทำให้ผู้อื่นเกิดความรู้อย่างแท้จริง ไม่ใช่สอนแบบขอไปที  การสอนจะต้องมีความใจเย็นรู้และเข้าใจถึงความต้องการ ความแตกต่างของแต่ละคนแล้วหาสิ่งที่เขาขาดหายนั้นมาเติมเต็มให้กับเขาผู้นั้น                                                                        2.ถ้าท่านเป็นครูผู้สอนท่านจะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์กับการเรียนการสอนได้อย่างไร
ดิฉันจะนำความรู้ที่ได้ไปสอนนักเรียนให้เกิดความรู้อย่างแท้จริง โดยจะลงมือทำให้นักเรียนดูแล้วสอนให้เขาลงมือทำจริงได้ นักเรียนจึงจะเกิดความรู้อย่างแท้จริง และจะพยายามให้นักเรียนมีส่วนร่วมในชั้นเรียน กล้าที่จะเสนอแนวความคิดที่แตกต่างออกมาเพื่อที่จะเกิดการพัฒนาต่อไปจะได้เกิดองค์งามรู้ใหม่ๆขึ้นมาในชั้นเรียน

3.ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นครูในอนาคตจะออกแบบการเรียนการสอนที่ที่จะนำแนวคิดนี้ไปใช้ได้อย่างไร
                ในฐานะที่ดิฉันจะไปเป็นครูในอนาคต ดิฉันจะสอนนักศึกษาทั้งทฤษฎีและปฏิบัติโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพื่อที่นักเรียนจะได้นำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในอนาคตได้
การสอนด้านทฤษฎีและปฏิบัตินั้นมีลักษณะดังนี้คือ
การเตรียมการสอนเรื่องประวัติศาสตร์นครศรีธรรมราช
1.ค้นคว้าหาข้อมูลเรื่องนครศรีธรรมราช
2.เรียบเรียงข้อมูลนครศรีธรรมราชที่จะนำมาสอน
3.เขียนจุดประสงค์การสอน
4.นำข้อมูลมาทำสื่อเรียนการสอน เช่น PowerPoint ใบความรู้ แผ่นพับ แจกนักเรียน เป็นต้น
5.ทำแบบทดสอบทั้งปรนัย และอัตนัย
การสอน
1.นำเสนอสื่อการสอน PowerPoint เรื่องประวัติศาสตร์นครศรีธรรมราช
2.แจกแผ่นพับนักเรียนเรื่องประวัติศาสตร์นครศรีธรรมราช
3.ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกันแล้วให้สรุปสิ่งที่ได้รับเพื่อที่จะทำแบบทดสอบ
4.นักเรียนทำแบบทดสอบทั้งปรนัยและอัตนัย
 5.เมื่อนำเสนอเสร็จก็แจกใบความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์เมืองนครศรีธรรมราช
6.นักเรียนแบ่งกลุ่มๆละ 6 คน ทำรายงานเรื่องผลิตภัณฑ์เมืองนครศรีธรรมราช ส่งแบบร่างรายงานอาทิตย์ถัดไป


บทความเรื่อง วิถีแห่งสตีฟ จ๊อบ

1.ข้อสรุปที่ได้จากบทความ
            การที่จะทำงานให้ประสบผลสำเร็จนั้นคนเราไม่จำเป็นต้องเป็นคนเรียนเก่งเสมอไป แต่ต้องเกิดจากใจรักจึงจะสามารถทำสิ่งนั้นให้ประสบผลสำเร็จได้  และการทำงานจะทำคนเดียวไม่ได้จะต้องมีการร่วมมือกันทำงานของบุคคลหลายกลุ่ม จะได้เกิดความคิดที่แตกต่างและหลากหลายงานจึงจะประสบผลสำเร็จได้  และในการทำงานเราก็ควรที่จะเอาใจใส่คนอื่นด้วย ให้คำปรึกษา แนะนำ ให้สิ่งตอบแทนที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเงิน ทอง แต่จะเป็นน้ำใจให้กันก็พอก็จะทำให้เกิดความสัมพันธ์กันในกลุ่มที่แน่นหนามากขึ้น
2.ถ้าท่านเป็นครูผู้สอนท่านจะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์กับการเรียนการสอนได้อย่างไร
ดิฉันจะนำความรู้ที่มีทั้งหมดนำไปถ่ายทอดให้แก่ลูกศิษย์โดยที่จะไม่หวงวิชา โดยใช้การสอนที่ทำให้นักเรียนทุกคนแสดงความสามารถของแต่ละคนออกมาให้ได้และทำให้เขารู้ว่าเขามีความถนัดด้านใด
ก่อนที่จะสอนจะสอบถามถึงความชอบและถนัดในวิชาที่เรียนและนักเรียนเสนอแนวคิดและสิ่งที่จะเรียนที่แตกต่างกันออกไปแล้วนำมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน และจะรักศิษย์ทุกๆคนเท่ากันไม่ว่าเขาจะเรียนเก่งหรือไม่เก่งก็ตามและจะคอยให้คำปรึกษาเวลานักเรียนมีปัญหาต่างๆ
3. ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นครูในอนาคตจะออกแบบการเรียนการสอนที่ที่จะนำแนวคิดนี้ไปใช้ได้อย่างไร
สอนเรื่องความสามัคคี
การเตรียมการสอนเรื่องความสามัคคี
1.ค้นคว้าหาข้อมูลเรื่องความสามัคคี
2.เรียบเรียงข้อมูลความสามัคคีที่จะนำมาสอน
3.เขียนจุดประสงค์การสอน
4.นำข้อมูลมาทำสื่อเรียนการสอน เช่น PowerPoint ใบความรู้แจกนักเรียน เป็นต้น
5.ทำ Mind Map เรื่องความสามัคคี
การสอน
1.นำเสนอสื่อการสอน PowerPoint เรื่องความสามัคคี
2.แจกใบความรู้นักเรียนเรื่องความสามัคคี
3.ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกันแล้วให้สรุปสิ่งที่ได้รับแล้วให้ทำ Mind Map เรื่องความสามัคคี
4.นักเรียนนำเสนอ Mind Map เรื่องความสามัคคี หน้าชั้นเรียน
5.เมื่อนำเสนอเสร็จก็ให้บันทึกสิ่งที่ได้รับใบความรู้เรื่องความสามัคคี ที่แจกให้
6. ให้คะแนนความสามัคคีภายในกลุ่มจากการสังเกตของครูในแต่ละกลุ่ม
 

 


        

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น